“ปราสาทสายฟ้า” ตีตั๋วเข้าชิงถ้วย ช้าง เอฟเอ คัพ ได้ตามเป้า หลังเฉือนชนะ “กูปรีอันตราย” ไปได้ 2-1 ทำให้มีลุ้นดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนี้
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ ศรีสะเกษ เอฟซี 1-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
Sisaket FC 1-2 Buriram United
สนาม บุณยะจินดา
วันพุธที่ 26 กันยายน 2561
ผู้ทำประตู : 0-1 ฮาเวียร์ ปาติญโญ น.13, 1-1 สุขพร วงศ์เชียงคำ น.23, 1-2 พรรษา เหมวิบูลย์ น.55
ศึกฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ 2018 รอบรองชนะเลิศ ระหว่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีกทีมล่าสุด พบกับ ศรีสะเกษ เอฟซี หนึ่งเดียวจากลีกรอง
โดย “ปราสาทสายฟ้า” จัดเต็มด้วยการส่ง 3 ประสานแนวรุกต่างชาติอย่าง ออสวัลโด ฟิลโญ, ฮาเวียร์ ปาติญโญ, ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ลงพร้อมหน้าเพื่อล่าแชมป์สมัยที่ 5 และดับเบิลแชมป์ในฤดูกาลนี้
ขณะที่ ศรีสะเกษ เอฟซี ตกชั้นจากไทยลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศบอลถ้วยช้างเอฟเอคัพได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ภายใต้การคุมทัพของ “น้าฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม โดยเกมนี้มี สุขพร วงศ์เชียงคำ เจ้าของฉายา “เมสซี่ลาว” นำทัพ
ครึ่งแรก
นาทีที่ 10 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ฟรีคิก ดิโอโก หลุยส์ ซานโต แทงบอลสั้นไปหน้าเขตโทษให้ อันเดรส ตูเญซ ยกบอลไปทางซ้ายให้ จักรพันธ์ แก้วพรม ได้แตะบอลในเขตโทษ แล้วพยายามยกไปที่เสาสองให้เพื่อ แต่ทว่าบอลเบา ณัฐชานนท์ โจถาวร กระโดดรับบอลไว้ได้ทัน
มาถึงนาทีที่ 13 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เตะมุมทางขวา กรกช วิริยอุดมศิริ เปิดด้วยซ้ายเข้ามาในเขตโทษ ณัฐชานนท์ โจถาวร ชกบอลพลาดบอลมาตกที่ ฮาเวียร์ ปาติญโญ ตอกลูกส้นเข้าประตูไปให้ ปราสาทสายฟ้า ทะยานออกนำ 1-0
แต่นาทีที่ 23 ศรีสะเกษ เอฟซี ก็มาได้ประตูตีเสมอ จักรพงษ์ สมบูรณ์ โยนบอลจากด้านขวาเข้าไปในเขตโทษ พรรษา เหมวิบูลย์ โขกสกัดบอลมาเข้าทาง สุขพร วงศ์เชียงคำ วิ่งมาจากแถวสองกดตูมเดียวบอลพุ่งเข้าประตูไปให้ ศรีสะเกษ เอฟซี ตามตีเสมอ 1-1
นาทีที่ 34 ปราสาทสายฟ้า ได้ลุ้น ศศลักษณ์ ไหประโคน วางบอลจากทางขวามาซ้ายให้ ดิโอโก พักอกเอาบอลลงก่อนจะเปิดเข้าไปที่เสาสองให้ ปาติญโญ พยายามโขก แต่ไม่โดน บอลเลยไปถึง ออสวัลโด ที่พยายามวิ่งมาโหม่ง แต่โดนไม่เต็มศรีษะ บอลเลยออกหลังไป
นาทีที่ 40 โอกาสอีกครั้งของ บุรีรัมย์ จากการทำชิ่งของ ดิโอโก ให้ กรกช หลุดไปในเขตโทษ ก่อนเปิดย้อนเข้ากลางประตูให้ ออสวัลโด ได้ซัด แต่หลุดออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
ช่วงเวลาที่เหลือ บุรีรัมย์ ยังพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่ แต่ก็เจาะไม่เข้า จบครึ่งแรก สกอร์ยังเสมอกันอยู่ 1-1
ครึ่งหลัง
นาทีที่ 55 ปราสาทสายฟ้า มาได้ฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งขวา กรกช วิริยอุดมศิริ เปิดด้วยซ้ายเข้าไปในเขตโทษผู้เล่นศรีสะเกษ โหม่งบอลออกหลังเป็นลูกเตะมุม กรกช เปิดเข้าไปกลางประตู พรรษา เหมวิบูลย์ ทะยานขึ้นโขกบอลมุดคานเข้าประตูไปให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกนำอีกครั้ง 2-1
นาทีที่ 65 ปราสาทสายฟ้า ได้ลุ้นจากฟรีคิกอีกครั้ง กรกช เปิดโค้งด้วยเท้าซ้ายเข้าไปในเขตโทษ ดิโอโก วิ่งทะลุผู้เล่นกูปรีอันตรายไปโหม่งบอลชนคานอย่างจัง บอลเด้งมาเข้าทาง ศุภชัย ใจเด็ด ยิงบอลพุ่งไปติดบล็อกผู้เล่นศรีสะเกษ ก่อนที่จะช่วยกันสกัดพ้นอันตรายออกไป
นาทีที่ 74 ออสวัลโด ได้บอลที่สุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดเข้าเขตโทษ ศุภชัย ใจเด็ด ได้วอลเลย์ตูมเดียว บอลพุ่งเหินข้ามคานออกหลังไปแบบน่าเสียดาย
นาทีที่ 84 ดิโอโก ได้บอลในเขตโทษก่อนจะโชว์ทักษะยกหลอกกองหลังกูปรีอันตราย แล้วจ่ายให้ ศุภชัย วิ่งเข้าไปยิงบอลพุ่งแฉลบเฉี่ยวเสาออกหลังไป
ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เฉือนชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี หวุดหวิด 2-1 ผ่านเข้าไปลุ้นแชมป์สสมัยที่ 5 ในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ ที่สนามศุภชลาศัย
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ศรีสะเกษ เอฟซี: ณัฐชานนท์ โจถาวร (GK), สุชาติ ชายใหญ่, จักรพงษ์ สมบูรณ์, คิม ซอง ซิก, เมธานนท์ สุทธเสน, สมยศ พงษ์สุวรรณ์, สุขพร วงศ์เชียงคำ, วงศพัทธ์ ศิลาหิรัญรัตน์, พงษ์ศักดิ์ บุญทศ, บาร์รอส อัลเมียร์, รัฐศักดิ์ เวียงอินทร์
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด: ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), พรรษา เหมวิบูลย์, อันเดรส ตูเญซ, กรกช วิริยอุดมศิริ, ศศลักษณ์ ไหประโคน, จักรพันธ์ แก้วพรม, รัตนากร ใหม่คามิ, ศุภชัย ใจเด็ด, ออสวัลโด ฟิลโญ, ฮาเวียร์ ปาติญโญ, ดิโอโก หลุยส์ ซานโต
